Friday, December 3, 2010

เยือนถิ่นหมีขาว รัสเซีย

                เมื่อตอนกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเยือนกรุงมอสโควประเทศรัสเซีย อากาศช่วงที่ไปถึงก็กำลังดีครับ แปดถึงสิบองศาเซลเซียส และเมื่อไปถึงก็โดนเลยครับ รถติดมากหนักกว่ากรุงเทพฯบ้านเราอีก สองข้างทางก็จะเห็นคอนโดเต็มไปหมด คล้ายๆกับที่เกาหลี หรือเกาะฮ่องกง ด้วยเหตุที่ค่าครองชีพที่นี่สูงมาก ซึ่งสวนทางกับรายได้จึงทำให้หารอยยิ้มได้ยากมากจากผู้คนทั่วไป และเป็นที่ทราบกันว่าไม่ควรเดินไปไหนมาไหนลำพังในประเทศนี้ และที่ประทับใจผมมากๆก็คือบรรดาอนุสรณ์สถานต่างๆ สร้างได้ยิ่งใหญ่มากครับ อลังการงานสร้างจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่ได้แรงบันดาลใจจากสงคราม ผมชอบจตุรัสแดงมากครับ สร้างได้สวยงามมาก ยิ่งใหญ่จริงๆ วิหารนักบุญเบซิล ที่ลักษณะเหมือนดอกต้นหอมเรียงรายกันไงครับ นี่เป็นสัญญลักษณ์ของมอสโคว สวยงามครับเห็นแล้วทำให้ผมคิดถึงแดนเนรมิตบ้านเรา และที่ลานกลางจตุรัสแดงนี้ในช่วงหน้าหนาวก็จะถูกเนรมิตให้เป็นลานสเกตน้ำแข็งที่กว้างใหญ่มาก และที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ บันไดเลื่อนลงไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลึกที่สุดในโลก 180เมตร น่ากลัวครับ เพราะถ้าหล่นลงไปก็คงไม่ต้องบรรยายว่าจะเป็นยังไง ในรถไฟฟ้าผู้คนเบียดเสียดมากครับยิ่งกว่ารถเมล์บ้านเรา ชนิดที่ว่ายืนได้ไม่เต็มเท้าเลยแหละครับ และเหตุผลที่ต้องสร้างลึกขนาดนั้นก็ไม่พ้นเรื่องสงครามอีกละครับ ว่ากันว่าหากเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นมาจริงๆ ประชากรของเค้าจะรอดตาย จากอานุภาพการทำลายล้างของอาวุธนิวเคลียร์ได้
                มาถึงเรื่องอาหารการกินเท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นพวกบาบีคิว ทานกับแป้งคล้ายๆโรตีแต่หนากว่า เหนียวกว่ามีซอสรสเค็มๆทานกับมะเขือเทศและหอมหัวใหญ่ อร่อยดีครับแต่ราคาแพงมาก ชุดนึงต่อหนึ่งคนก็เจ็ดร้อยบาท คือราคาทั่วไปในกรุงมอสโควนะครับ อย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่าค่าครองชีพที่นี่สูงมาก ไก่ทอดยี่ห้อดังที่มีอยู่ในบ้านเราก็ชิ้นละห้าสิบเก้าบาท แพงมากบ้านเรายังแค่ชิ้นละสามสิบห้าบาท แต่ที่แอลเอสิบชิ้นราคาสิบเหรียญถูกกว่าบ้านเราอีก และ พืชผักและผลไม้ก็เป็นผลผลิตที่มีราคาแพง ซึ่งเป็นธรรมดาของประเทศที่มีอากาศหนาวจัดถึงลบยี่สิบ หรือสามสิบองศาเซลเซียสแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงบ้านเราช่างอุดมสมบูรณ์เป็นที่สุด ผมคิดถึงแกงแค อาหารพื้นบ้านภาคเหนือ อากาศแบบนี้ต้องทานแกงที่มีส่วนผสมของผักหลายๆชนิดรวมกัน ป้องกันไข้หัวลม ประมาณนั้น
                 ส่วนในเรื่องของฝากก็คงไม่พ้นตุ๊กตาแม่ลูกดก ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าลูกดกยังไง คนขายก็บรรจงถอดตุ๊กตาออกเหมือนปอกเปลือกยังไงยังงั้น ข้างในของตุ๊กตาตัวใหญ่ก็บรรจุตัวที่เล็กลงมา อยู่ข้างในซ้อนๆกันประมาณห้าตัว และบางตัวตัวใหญ่ก็มีบรรจุอยู่ถึงสิบตัวข้างใน เก่งมากครับยังเดาไม่ออกว่าทำยังไง และก็อีกอย่างคือหมวกกันหนาวที่ทำจากหนังสุนัขจิ้งจอก และหนังสุนัขจิ้งจอกทั้งตัว รับรองว่าของแท้ครับ เพราะยังมีอุ้งเท้าและปลายจมูกสุนัขติดอยู่กับหนังทุกผืน เห็นแล้วขนหัวลุกครับ
                 ทริปนี้ประทับใจมากครับ กับความสวยงามของกรุงมอสโควแต่ไม่ค่อยประทับใจผู้คนที่นั่น ตลอดสามสี่วันที่อยู่ที่นั่น ผมได้เห็นรอยยิ้มของคนที่นั่นเพียงครั้งเดียว คือเชฟที่ย่างเนื้อบาบีคิวให้ผมทานนั่นแหละครับ คิดถึงบ้านขึ้นมาทันทีครับ อยากกลับไปทำแกงแคกินแล้วครับผม
                 ต้องขอขอบพระคุณท่านกัปตันชัชวาลย์ ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์จัดหาคุณโซดา นักเรียนไทยที่ไปทำปริญญาเอกที่มอสโคว มาคอยให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่ต่างๆในกรุงมอสโคว

2 comments:

  1. เยี่ยมมากน้องเรา ฉลุย แล้วจะติดตามตอนต่อไปอีก หาที่อร่อยๆๆนะฝากท้องด้วย

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณครับพี่สาวสำหรับกำลังใจที่จะทำให้ผมมีแรงเดินหน้าต่อไปครับ

    ReplyDelete